08 เมษายน 2552

วัดพระบาทน้ำพุ พิพิธภัณฑ์ชีวิต

Life Museum พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ไม่ได้มีไว้แสดงงานศิลปะ ไม่มีของมีค่าใดๆ มันคือพิพิธภัณฑ์ชีวิตของผู้ได้รับเชื้อเอดส์ เพื่อรอวันสิ้มลมหายใจ รอคอยวันจากโลกนี้ไปอย่างทุกข์ทรมาน




วัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี เป็นสถานที่ที่บ่งบอกถึงเรื่องราวของโรคเอดส์ในประเทศไทย ภายใต้โครงการบ้านพักผู้ป่วยโรคเอดส์ระยะสุดท้าย โดยวิถีทางพุทธ
พระอุดมประชาทร (อลงกต ติกฺขปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เป็นหัวเรือใหญ่ดูแลทุกกิจกรรม ทั้งยังออกเดินสายบิณฑบาต หล่อเลี้ยงหลายชีวิตที่อยู่ที่นี่ ในสถานที่แห่งนี้ไม่มีใครได้ออกไปจากวัด ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนถูกขับไล่ออกมาจากบ้าน จากครอบครัว จากสังคม เป็นเพียงขยะมนุษย์ที่ไร้ค่าในสายตาของผู้คนภายนอก ถ้าเป็นนักโทษ ยังมีเวลาพ้นโทษ ยังมีโอกาสที่จะฝันถึงอนาคตถ้าเป็นคนป่วย ก็ยังมีวันหาย มีวันที่จะกลับออกไปใช้ชีวิตภายนอกท่ามกลางครอบครัวที่อบอุ่น แต่ที่นี่เหมือนเป็นอีกโลก อีกสังคมที่นี่ไม่มีอนาคต ไม่มีความฝันที่สวยหรู และไร้ซึ่งความฝัน มีแต่ความจริงของชีวิตว่าทุกคนกำลังจะตายไม่มีข้อยกเว้นว่าเด็กหรือผู้ใหญ่




กองเถ้ากระดูกมนุษย์นับพันเพื่อรอคอยญาติมารับและมีไม่ถึง 1% ที่ถูกนำกลับบ้าน ลองหลับตาและจินตนาการเล่น ๆ ถ้ากองกระดูกเหล่านี้กลายร่างเป็นคน บริเวณนี้คงแออัดยัดเยียดบ้างก็คงนั่งกอดเข่า บ้างก็ยืนชะเง้อมองหาบุคคลอันเป็นที่รักบ้างก็คงร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด เพื่อที่จะรอคอยการกลับบ้าน ช่างเป็นการรอคอยที่ไร้จุดหมายจริงๆ ครับ


จากดิน น้ำ ลม ไฟ ค่อยใหญ่ยิ่งกลายเป็นสิ่งสดสวยด้วยสีสัน กลับเสื่อมสิ้นอินทรีย์ทุกชีวัน สูงสุดคืนสู่สามัญ นั่น! ความจริง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่วัดพระบาทน้ำพุเลยครับ

06 เมษายน 2552

วิธีเลือกซื้อรถมือสอง


การซื้อรถบ้านใช้แล้ว หรือรถมือสองถ้าเรามีความละเอียดรอบคอบเพียงพอในการเลือกซื้อ ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนก่อนการตัดสินใจซื้อ ก็จะทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นว่าซื้อแล้วได้ใช้งานคุ้มค่า คนที่เลือกใช้รถมือสอง อาจเป็นเพราะสตางค์ในกระเป๋ามีจำกัด อีกทั้งไม่อยากเป็นภาระมานั่งผ่อนทุกเดือน ทีนี้เรามาดูว่ารถมือสอง ที่เราจะซื้อมีวิธีการเลือก คร่าว ๆ อย่างไร
การเลือกซื้อรถมือสอง เราต้องตั้งคำถามให้ตัวเองให้เคลียร์ก่อนว่า เราซื้อรถมาใช้วันละกี่กิโล นั่งกันกี่คน ใช้ถนน แบบไหน
เคยเจอ อยู่เคสนึง ซื้อรถมาใช้ขับไปทำงาน (ในเมือง) แต่ทุกปีต้องรับญาติไปเชงเม้งนั่งกัน 7-8 คน สรุปว่า ซื้อ ฟอร์จูนเนอร์มา ผลก็คือ ต้องลากรถ หนัก เกือบ 2 ตันขับไปทำงานทุกวัน เพื่อรอวันนั้นวันเดียว (วันเชงเม้ง) สุดท้ายแบกค่าน้ำมันไม่ไหวก็เลยขาย ไปซื้อ ซิตี้มาขับ ถามเค้าว่า แล้ววันเชงเม้งละ เค้าตอบสั้นๆ เช่ารถตู้ (เพิ่งคิดได้)
สรุปก็คือเราต้องถามตัวเองก่อนว่า
1 ส่วนใหญ่เราใช้รถวันละกี่กิโล
2 ขับแถวใหน ในเมือง นอกเมือง
3 มีคนนั่งกี่คน
4 บรรทุกของเยอะไหม
เลือกรถ
พอเราทำความรู้จักกับตัวเราแล้วก็ถึงเวลาที่เราก็ต้องทำความรู้จักรถกันแล้วครับ
เพื่อที่เราจะได้รถ ที่ตอบโจทย์เราได้ทุกข้อ
ส่วนเราจะหาข้อมูลอะไรบ้างก็ตามนี้เลย

1 อัตราสิ้เปลือง (กิโล/ลิตร)
2 ขนาดเครื่อง 1500 1600 2000 หรือ 3000 etc หาที่เหมาะกับลักษณะการใช้งาน
3 อัตราเร่ง อันนี้แนะนำให้ลองเองกะเท้า
4 เกียร์ กระปุก ออโต้ cvt or paddleshift etc.
5 ราคาค่าซ่อม ค่าอะไหล่ ไปคลับของรถรุ่นนั้นเลยครับ
6 ปัญหาที่พบบ่อย เช่น ซีวิค แอร์เหม็น ออดี้ โฟล์ค เรื่องเกียร์ ฟอร์จูนเนอร์ก็ เรื่องเบรคเป็นต้น (ยกตัวอย่างนะครับ)
ตัวถัง สี และโครงสร้างตัวถังสี
ให้ดูว่าสภาพของสีรอบ ๆ ตัวรถว่ามีการบวมปูดของสีหรือสีซีดด่าง ผุเป็นสนิม มากน้อยแค่ไหน ส่วนรอยขนแมว ก็ นานาจิตตัง หลังจากนั้นให้เล็งดูจากด้านหน้าไปจรดด้านหลังรถ สังเกตดูตะเข็บรอยต่อของหลังคา ขอบกระจกหน้า-หลัง จากนั้นเปิดฝากระโปรงหน้าดูที่คานหม้อน้ำทั้งด้านบนและด้านล่าง ขอยึดกันชนที่ต่อเชื่อมมาจากแชสซีส์ ดูตะเข็บรอยต่อภายในห้องเครื่องให้สังเกตดูว่ามีร่องรอยของความเสียหายหรือไม่ เพราะรถที่ถูกชนมาอย่างหนักพวกรอยเชื่อมหลังจากซ่อมมาแล้ว มักจะไม่เหมือนกับที่มาจากโรงงาน อันนี้คงต้องใช้การสังเกต(คนดูรถเป็นจะทราบ) แต่ถ้าหากมีร่องรอยบ้างไม่มากนัก ก็ข้ามๆไปบ้าง เพราะรถที่ไม่ชนมันหายากมากถึงมากที่สุด แต่ถ้าไม่พบเลยก็จะเป็นอันดีที่สุดการดูด้านหลังก็ให้ดูเหมือนด้านหน้าแต่โครงสร้างส่วนหลังนี้มีความสำคัญน้อยกว่าส่วนหน้า (แต่ก็สำคัญนะ)ไฟหน้า ไฟท้าย ดูแล้วใหม่กว่าตัวรถหรือเปล่า มีน้ำเข้าไปขังหรือป่าวลองเปิด ปิดไฟ เหยียบเบรคดูว่าไฟทำงานครบมั๊ยโครงสร้างตัวถังมีความสำคัญสำหรับการดูรถมือ 2 มากหากเสียศูนย์จนไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว เมื่อเบรกอย่างกะทันหันรถก็อาจหมุนได้ หรือขณะขับขี่ผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขังรถก็อาจลื่นไถลได้ง่ายแม้จะไม่ได้เบรกก็ตามโครงสร้างของรถยนต์นั้น หลายส่วนสามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ และก็มีบางส่วนที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ หรือถ้าจะเปลี่ยนก็เป็นเรื่องที่ยุ่งยากสลับซับซ้อนมากจนไม่มีใครนิยมทำกัน อย่างบังโคลนหน้า ฝากระโปรง ประตู ไฟหน้า ไฟท้าย สามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่แทนได้ในกรณีที่ประสบอุบัติเหตุมา ส่วนที่ต่อกับเสาหลังคารถหรือเฟรมตัวถังกับเสาประตู เป็นชิ้นส่วนที่ไม่นิยมเปลี่ยนกัน ด้วยขั้นตอนความยุ่งยากและความแข็งแรงของส่วนนั้นที่จะลดลงหลังจากทำการซ่อมไปแล้ว จึงควรจะต้องดูที่บริเวณนี้ให้ดี ถ้าพบว่ามีเปลี่ยนก็ bye bye ได้เลย

เครื่องยนต์
เปิดดูก่อนเลยครับ สภาพเนียนมั๊ย ดูน้ำไว้ว่ามีเท่าไหร่ น้ำมันเครื่องอยู่ระดับใด แล้วก็ลองสตาร์ท(อย่าเพิ่งปิดกระโปรงรถ) ให้ฟังว่าเครื่องยนต์เดินเรียบหรือไม่ และให้ฟังดูว่ามีเสียงอะไรผิดปกติหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน มีเสียงดังแต่ก...แต่ก ของวาล์วหรือไม่ หรือเสียงดังกิ๊กๆกั๊ก ๆ ที่เกิดจากแคมชาฟท์หรือเพลาข้อเหวี่ยง สลักลูกสูบหรือไม่ ถ้ามีก็แสดงว่าเครื่องยนต์มีปัญหาใหญ่แน่ ๆ ต่อมาให้ลองฟังดูว่ามีเสียงของลูกปืนไดชาร์จ ไดสตาร์ทด้วย จากการฟังก็มาถึงการใช้วิธีของหมา คือ ดมกลิ่นที่ท่อไอเสียดู ถ้ามีกลิ่นไม่ฉุนมากนักก็แสดงว่าเผาไหม้สมบูรณ์ แต่ถ้ามีกลิ่นฉุนรุนแรงหรือมีควันสีดำออกมาเวลาเร่งเครื่องก็แสดงว่าเผาไหม้ไม่หมดเครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์ และรถคันนั้นจะกินน้ำมันมากกว่าปกติอีกด้วย หรือถ้าเป็นควันสีขาวไหลออกทางปลายท่อ ยิ่งมีปริมาณมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงว่าเครื่องหลวมมากเท่านั้น แต่ถ้าสตาร์ทแล้วมีน้ำออกทางท่อ สันนิษฐานได้ว่า เครื่องฟิต ได้เวลาปิดฝากระโปรง ปิดประตูออกรถเลยครับ ค่อยๆออกรถห้ามออกเอี๊ยด เพราะท่านอาจโดนเจ้าของรถ บ้องหูเอาได้ อิอิ ตอนนี้ ให้รวมประสาทสัมผัสไว้ที่หูกับก้น แล้วถามตัวเองว่าอัตราเร่งเป็นที่น่าพอใจมั๊ย เสียงเข้ามาดังรึเปล่า สิ่งที่ต้องสังเกตุเกียร์ออโต้เปลี่ยนลื่นมั๊ยทุกเกียร์ต้องไม่กระตุก ส่วนเกียร์กระปุกต้องเข้าง่าย เข้าแล้วไม่หลุด สำหรับระบบเกียร์นั้นมีวิธีการตรวจเช็คแบบง่าย ๆ รถจอดอยู่กับที่ก็สามารถตรวจได้ ถ้าเป็นเกียร์อัตโนมัติ ให้ลองเข้าเกียร์ D โดยใช้เท้าซ้ายเหยียบเบรกเอาไว้แล้วใช้เท้าขวาเหยียบคันเร่งลงไปเรื่อย ๆ ถ้ารอบอยู่ที่ประมาณ 2,000 รอบ/นาที ก็ถือว่าใช้ได้ แต่ถ้ารอบเลยขึ้นไปถึง 2,500-3,000 รอบขึ้นไป ก็แสดงว่าชุดคลัตช์เริ่มลื่นแล้ว ซึ่งค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมนั้นสูงมาก ตั้งแต่ 20,000 ถึงหลักแสนแล้วแต่อาการ เกียร์ธรรมดาก็เช่นกัน ให้ติดเครื่องและเข้าเกียร์หนึ่งโดยใช้เท้าขวาเหยียบเบรกเอาไว้และค่อย ๆ ปล่อยคลัตช์ดู ถ้าเครื่องตับแสดงว่าคลัตช์ยังดีอยู่ แต่ถ้าเครื่องยังไม่ดับก็เป็นอันว่าชุดคลัตช์กลับบ้านไปแล้วแอร์เย็นเร็วมั๊ย แล้วพัดลมต้องทำงานทุกเบอร์ เสียงคอมดังแปลกๆรึเปล่า ปกติคอมแอร์ไม่ดัง ยกเว้นบางรุ่นที่คอมแอร์ ดังเป็นเรื่องปกติ เช่น โฟล์ค แพสสาท highline เป็นต้นกลับมาแล้วอย่าลืมเปิดฝากระโปรงดูว่ารถ กินน้ำ กินน้ำมันเครื่องรึเปล่าอันนี้สำคัญมาก ซ่อมแพงแน่ๆ



ภายในห้องโดยสาร
ความชื้น
ครั้งแรกที่ขึ้นไปบนรถต้องไม่รู้สึกว่ารถชื้นถ้าชื้นแปลว่าอาจมีตัวรถส่วนไหนเป็นสนิม หรือ ยางขอบประตูเสื่อม
ยางขอบประตู
ต้องล็อคอยู่กับตัวรถ ในสภาพเรียบร้อย ไม่หลุดย้อย เวลาขึ้นไปนั่งต้องไม่มีเสียงภายนอกเข้ามามากเกินไป
สภาพเบาะ แผงประตู
เบาะหนังก็ทั่วไปไม่ขาดไม่เยิน ถ้าเบาะผ้าก็ต้องไม่ชื้น ไม่หลุดลุ่ย
ไฟในรถ กระจกไฟฟ้า เครื่องเสียง
ลองเปิดดูทุกดวง กดขึ้นกดลง ไม่ต้องกลัวครับ ซื้อของหลัก แสนหลักล้านอย่างนี้ อย่าหน้าบาง ส่วนเครื่องเสียงก็ลองเปิดดูเลยครับ
หน้าปัด
ระบบไฟฟ้าทั้งหลาย ระบบไฟสัญญาณต่าง ๆ บนหน้าปัดขณะที่บิดกุญแจไปยังตำแหน่ง ON สัญญาณเครื่องหมายต่าง ๆ บนหน้าปัดจะต้องมีโชว์ขึ้นมาทั้งหมด เมื่อเครื่องยนต์สตาร์ทติดแล้วไฟต่าง ๆ เหล่านี้จะต้องดับหมด ซึ่งถ้าตรงไหนยังไม่ดับแสดงว่าระบบนั้นต้องมีปัญหา

ช่วงล่าง เบรค
เวลาที่วิ่งบนถนนที่ขรุขระ ให้สังเกตด้วยว่ามีเสียงผิดปกติของช่วงล่างไหม การบังคับเลี้ยวเป็นอย่างไร รถวิ่งเอียงหรือเฉไปเฉมาไหม หรือเบรกไม่อยู่ และลองเหยียบเบรกดูด้วยว่ามันอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ ไม่ใช่วิ่ง ๆ ไปพอเบรกทีรถแฉลบลงข้างทางไปเลยและรถขับเคลื่อนล้อหน้าให้ทดสอบเพลาขับหน้าด้วยโดยหักเลี้ยวซ้ายสุด ขวาสุดว่ามีเสียงดัง แกร็ก ๆ เวลาออกตัวหรือไม่ ถ้าเสียงดังก็แสดงว่า เพลาขับหน้าชำรุดแล้ว
สุดท้ายให้ดูสภาพของยางที่ติดอยู่กับรถว่า มีการสึกหรอเพียงใด โดยสามารถสังเกตได้อย่างง่าย ๆ คือให้ลองเอาเล็บจิกไปที่ดอกยาง ถ้ายางแข็งมากจนเล็บจิกไม่เป็นรอย หรือเวลาที่วิ่งแล้วมีเสียงของยางกระทบพื้นถนนที่ดังมากก็แสดงว่ายางนั้นเสื่อมสภาพแล้ว แต่ต้องแยกให้ออกด้วยว่าเป็นเสียงยางหรือเสียงลูกปืนล้อกันแน่ ถ้ายางนั้นสึกไม่เท่ากันทั้งหน้ายางก็แสดงว่าศูนย์ล้อนั้นมีปัญหาแล้ว เรื่องของศูนย์ล้อก็ต้องระวังเอาไว้ด้วย เพราะถ้าแค่ศูนย์ล้อคลาดเคลื่อนธรรมดานั้นสามารถแก้ไขได้ แต่ถ้าเคลื่อนจนไม่สามารถตั้งได้แสดงว่ารถคันนี้ต้องประสบอุบัติเหตุหนักมาอย่างแน่นอน

ขอบคุณผู้สนับสนุนข้อมูล

05 เมษายน 2552

วิธีดาวน์โหลดไฟล์หนัง วีดีโอคลิป จาก youtube แบบง่ายๆ

วันนี้มีวิธีดาวน์โหลดไฟล์หนัง ไฟล์วีดีโอคลิปแบบง่ายๆจาก youtube มาฝากกันครับ ไม่ต้องใช้โปรแกรมอะไรเพิ่ม ใช้ IE หรือ Firefox นี่แหละครับ

วิธีการมีดังต่อไปนี้
1. ให้คุณค้นหาวีดีโอคลิปที่ต้องการ เมื่อเจอแล้ว ให้ไปดูที่ URL Address ของ วีดีโอนั้น เช่น http://www.youtube.com/xxxxxxx เป็นต้น
2. ให้คุณเพิ่มคำว่า kick ไปที่หน้าคำว่า youtube ใน URL Address เช่น http://www.kickyoutube.com/xxxxxxx

3. คราวนี้คุณก็จะมาเว็บของ kickyoutube เพื่อทำการ save file กันแล้วครับ
4. ให้คุณเลือกประเภทไฟล์ที่ต้องการว่าจะ save ไว้ในรูปแบบ format ไหน เช่น FLV เป็นต้น

5. ให้คุณคลิกที่ Go แล้ว ปุ่ม Down จะปรากฎขึ้น ให้คุณ คลิกขวา แล้วเลือก save link as

6. จะมีหน้าต่างขึ้นมาถามว่าคุณจะ save file ชื่ออะไร และ เก็บไว้ที่ไหน คุณก็ทำกันตามสะดวกเลย ตรงนี้น่าจะทำเป็นกันทุกคนอยู่แล้ว เสร็จแล้วครับ ง่ายมั้ยครับ

ต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุนข้อมูล


วิธีแก้เจ้าวายร้าย ไวรัส msn Image.zip pic.zip

เพื่อนๆที่เล่น msn ที่ประสบปัญหาในเรื่องอยู่ดีๆก็มีเพื่อนใน msn ส่งไฟล์แปลกๆมาให้ เช่นไฟล์Image.zip/pic.zip หรือลิงค์แปลกๆ "อย่ากดรับเด็ดขาด" แต่ถ้าใครเผลอกดรับหรือรันไฟล์ไปเรียบร้อยแล้วก็มาดูวิธีแก้ไขกันครับ
วิธีแรก ดาวน์โหลดโปรแกรม MSN_Worm_Remover.exe ที่นี่เลยครับ โหลดเสร็จแล้วก้อแตกไฟล์ตามปกตินะครับ ขั้นตอนต่อไปก้อทำการรันไฟล์ที่ได้โดยการดับเบิลคลิ๊กไฟล์ MSN_Worm_Remover.exe เป็นอันเสร็จ
อีกวิธีนึงอาจจะยุ่งยากหน่อยนะครับ
ลำดับแรกให้กด ctrl+alt+del ที่แป้นคีย์บอร์ด แล้ว end process winlog32.exe ดูในรูปก็ได้ครับ


ต่อมาให้ clakStart -> Run พิม regedit แล้วกด ok ให้หา
ไฟล์ที่ชื่อ winlog32.exe ในคีย์ด้านล่าง เจอที่ไหนลบให้หมดครับ
HKEY_USERS\.DEFAULT\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Runonce
HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Run
HKEY_USERS\.DEFAULT\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Run
HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Run
HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Windows\CurrentVersion\RunOnceEx
HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Windows\CurrentVersion\RunServices
HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Runonce



เสร็จแล้วก็ Restart เครื่องครับ ขั้นตอนสุดท้าย หลังจากRestartแล้วให้เปิดหน้า My Computer ขึ้นมาแล้วกดที่ Tools ให้เลือก Folder Options ให้ทำการทำการ set ตามรูปด้านล่างให้โชว์ hidden file ให้ติ๊กหน้าข้อความ Show hidden files and folders แล้วกด ok




จากนั้นให้เข้าไปที่ไดร์ C /Program files/windowsให้ลบไฟล์ที่ชื่อ winlog32.exe

แล้วให้กลับมาที่หน้า My Computer เปิดหน้าFolder options ขึ้นมาเหมือนเดิมครับเลือก restore defaults แล้ว clak ok เป็นอันเรียบร้อยครับ

w32.msn.worm / im worm.win32.Agent.f เป็นไวรัสที่แพร่กระจายตัวเองผ่านโปรแกรมสนทนา msn messenger ไฟล์ที่มีชื่อว่า Image.zip เมื่อผู้สนทนา msn ติดไวรัสชนิดนี้ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ ไวรัสจะสร้างไฟล์ %windir%winlog32.exe และจะพยายามส่งตัวเองไปยังบัญชีรายชื่ออื่นๆ ที่อยู่ในลิสต์msnด้วย วิธีป้องกัน ห้ามรับไฟล์หรือรันไฟล์ที่ถูกส่งด้วยไปรแกรมสนทนาเช่น msn yahoo icq irq pirch จากบุคคลที่ไม่รู้จักหรือไม่มั่นใจว่าผู้ส่งเป็นใครและไม่ทราบว่าไฟล์ดังกล่าวนั้นเป็นไฟล์อะไร ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส และต้องทำการปรับปรุงฐานข้อมูลไวรัสให้ทันสมัยอยู่เสมอ ควรจะ update ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดอยู่เสมอ

อีกตัวครับ NOD32 VirusMSN-IRCBOT-Fix ไปหาDownloadได้ที่นี่เลยครับข้อให้มีความสุขกับการChatขอรับหิวแว้วไปหารัยกินก่อน ขอให้โชคดีทุกท่านครับ

อาการแพ้อาหารแท้จริงเป็นอย่างไร


อาการแพ้อาหารแท้จริงเป็นอย่างไร
คนเรานั้นมีโอกาสเกิดอาการแพ้อาหารและการรับอาหารบางชนิดไม่ได้เป็นบางช่วงของชีวิต ซึ่งในเด็กประมาณร้อยละ 3 ที่พิสูจน์ได้ว่าแพ้อาหารจริง แต่เมื่อเป็นผู้ใหญ่อาการแพ้อาหารนั้นจะลดลงเหลือเพียงร้อยละ 1 เท่านั้น แท้จริงแล้วอาการหรือปฏิกิริยาทางร่างกายที่เกิดขึ้นเมื่อกินอาหารบางชนิดเข้าไปนั้น มีความแตกต่างระหว่างคำว่า "การแพ้อาหาร" (Food allergies) กับ "การรับอาหารบางชนิดไม่ได้" (Food intolerance) ทั้งนี้ "การแพ้อาหาร" (Food allergies) จะเกิดจากปฏิกิริยาที่ไวต่ออาหารนั้นๆ เป็นปฏิกิริยาที่ผิดปกติต่ออาหารเนื่องจากมีการกระตุ้นจากระบบภูมิต้านทานของร่างกาย ส่วน "การรับอาหารบางชนิดไม่ได้" ไม่ได้เกี่ยวข้องกับระบบภูมิต้านทานแต่อย่างใด แต่ทั้งสองกลุ่มนี้จะมีอาการคล้ายคลึงกัน ทั้งนี้การแพ้อาหารจริงๆ มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดที่ต้องพยายามตรวจสอบและป้องกันการเกิดปฏิกิริยาการแพ้ เพราะนอกจากทำให้เกิดภาวะเจ็บป่วยแล้ว บางคนอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ กลไกการเกิดปฏิกิริยาการแพ้อาหาร ปฏิกิริยาการแพ้นั้นมีผลเกี่ยวข้องกับ 2 กลไกทางระบบภูมิต้านทาน คือ การสร้างภูมิต้านทานชนิด อี (Immunoglobulin E: IgE) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งเรียกว่าแอนตี้บอดี้ที่อยู่ในกระแสเลือด และอีกกลไกหนึ่งเกี่ยวข้องกับมาสต์เซลล์ (Mast cell) ที่อยู่ในทุกเนื้อเยื่อของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณที่เกิดอาการแพ้ เช่น ในจมูก คอ ปอด ผิวหนัง และทางเดินอาหาร ความสามารถในการสร้าง IgE ต่ออาหารนั้นมักมีส่วนที่ได้รับจากกรรมพันธุ์ เช่น มีคนในครอบครัวมีอาการแพ้ไม่ว่าจะแพ้อาหาร แพ้ฝุ่น แพ้เกสรดอกไม้ หอบหืด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพ่อแม่เป็นภูมิแพ้ทั้งสองฝ่าย ลูกก็จะมีโอกาสแพ้มากกว่าคนที่มีเพียงพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งที่เป็นภูมิแพ้ ก่อนที่จะเกิดอาการแพ้นั้น คนที่แพ้ต้องเคยได้รับอาหารชนิดนั้นมาก่อน เมื่อมีการย่อยอาหารก็จะกระตุ้นให้มีการสร้าง IgE จำนวนมาก ซึ่งจะเข้าไปเกาะผิวของมาสต์เซลล์ เมื่อมีการรับประทานอาหารชนิดนั้นอีกครั้ง อาหารจะไปกระตุ้น IgE จำเพาะบนผิวมาสต์เซลล์นั้น ทำให้เกิดการหลั่งสารเคมี เช่น ฮีสตามีน ซึ่งจะทำให้เกิดอาการแพ้ตามแต่บริเวณของเนื้อเยื่อที่มีการหลั่งสารเคมีนั้น เช่น มีการหลั่งสารเคมีที่บริเวณหู คอ จมูก ก็จะมีอาการคันหรือบวมที่ปาก คอ หายใจลำบาก หรือกลืนอาหารลำบาก แต่ถ้าเป็นที่บริเวณทางเดินอาหาร ก็อาจมีอาการปวดท้องหรือท้องร่วงได้ ส่วนของสารอาหารที่ทำให้เกิดการแพ้นั้น เป็นโปรตีนในอาหารที่มักไม่ถูกสลายด้วยความร้อนในการปรุงอาหารหรือกรดในกระเพาะอาหารหรือน้ำย่อย จึงทำให้สามารถดูดซึมผ่านเข้าสู่กระแสเลือดไปยังบริเวณเป้าหมายที่เกิดอาการแพ้ขึ้นได้ทั่วร่างกาย ความซับซ้อนในกระบวนการย่อยอาหารมีผลต่อระยะเวลาและตำแหน่งที่เกิดอาการ ตัวอย่างเช่น อาการจะเริ่มต้นจากมีอาการคันที่ปากก่อนเมื่อเริ่มรับประทานอาหาร พออาหารถูกย่อยในกระเพาะอาหารแล้ว มักจะเกิดอาการทางเดินอาหาร เช่น อาเจียน ท้องร่วง และปวดท้องได้ เมื่อสารที่ทำให้แพ้เข้าสู่กระแสเลือดก็อาจทำให้ระดับความดันโลหิตตกลงได้ หากไปที่ผิวหนังก็เกิดอาการผื่นแพ้ หรือไปที่ระบบทางเดินหายใจก็อาจทำให้เกิดอาการหอบหืดได้ ซึ่งอาการต่างๆ นี้ อาจเกิดได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีจนเป็นชั่วโมงก็ได้เช่นกัน การแพ้อาหารที่พบบ่อย ในผู้ใหญ่อาหารที่พบว่าเกิดการแพ้ได้บ่อย ได้แก่ อาหารทะเล เช่น กุ้ง กั้ง ปู พืชเมล็ดบางชนิด เช่น ถั่ว ส่วนที่แพ้ได้แต่ไม่บ่อย ได้แก่ ปลา และไข่ ซึ่งเมื่อแพ้แล้วอาจมีอาการแพ้เพียงเล็กน้อยจนถึงขั้นรุนแรงได้ คือ อาจจะแค่คัน บวม กระทั่งความดันโลหิตตกอย่างเฉียบพลัน และอาจถึงแก่ความตายได้ ส่วนในเด็กนั้นอาหารที่พบว่าเกิดการแพ้นั้นแตกต่างจากผู้ใหญ่ คือ มักมีอาการแพ้ไข่ นมวัว และถั่ว ซึ่งอาการแพ้อาหารนี้อาจจะหายไปได้เองเมื่อโตขึ้น แต่หากเป็นการแพ้ปลาและกุ้งก็มักจะไม่หาย ในขณะที่ผู้ใหญ่เมื่อแพ้อะไรแล้วมักจะไม่หาย การแพ้อาหารในทารกและเด็ก การแพ้นมวัวและถั่วเหลืองพบได้บ่อยในทารกและเด็ก ส่วนมากจะไม่มีอาการหอบหืด แต่มักมีอาการปวดท้อง นอนไม่หลับ มีเลือดออกมากับอุจจาระ ดูเด็กไม่มีความสุข หรือเลี้ยงไม่โต เป็นต้น สาเหตุที่ทำให้เด็กแพ้อาหารเชื่อว่าเกิดจากความไม่สมบูรณ์ของระบบภูมิต้านทานและระบบทางเดินอาหาร อาการแพ้นมหรือถั่วเหลืองนี้เริ่มแสดงอาการได้ตั้งแต่ทารกแรกเกิด หรือมีอายุเพียงไม่กี่เดือนนับตั้งแต่คลอด เด็กที่มีอาการแพ้อาจพบว่ามีประวัติคนเป็นภูมิแพ้ในครอบครัวด้วย หากทารกแพ้นมวัวแพทย์ก็จะแนะนำให้เปลี่ยนเป็นนมถั่วเหลืองแทนหรือให้ดื่มนมแม่เพียงอย่างเดียว หากมีการแพ้นมถั่วเหลืองด้วย ก็อาจต้องใช้นมสูตรพิเศษที่มีการย่อยโปรตีนแบบสมบูรณ์ ในกรณีที่เด็กมีอาการแพ้รุนแรงคุณหมออาจจะให้ยา เช่น สเตียรอยด์ แต่ก็ยังโชคดีที่อาการแพ้ในเด็กนั้นมักจะหายไปได้เองในช่วงปี สองปีหลังเกิดอาการ การให้นมแม่อย่างเดียวโดยไม่ให้อาหารอื่นเลยแก่ทารกในช่วง 6-12 เดือนนั้น จะสามารถหลีกเลี่ยงการแพ้นมวัวและนมถั่วเหลืองได้ โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ แต่คุณแม่เองก็ต้องตระหนักด้วยว่าอาหารที่รับประทานนั้นอาจทำให้ลูกเกิดอาการแพ้ได้ ดังนั้นคุณแม่ที่ให้นมลูกควรต้องระมัดระวังเลือกอาหารให้ดีด้วยเพื่อหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ลูกแพ้ แม้ว่ายังไม่มีการพิสูจน์ว่าการให้นมแม่นั้นสามารถป้องกันการแพ้ในวัยที่โตขึ้นได้ แต่อย่างน้อยการให้นมแม่ก็ช่วยเลื่อนเวลาการเกิดการแพ้อาหารออกไปได้ และหากเลื่อนการให้อาหารเสริมเป็นหลังอายุ 6 เดือน ก็จะช่วยเลื่อนระยะเวลาการเกิดอาการแพ้ได้ด้วยเช่นกัน อาการแพ้อาหารแท้จริงเป็นอย่างไร การแพ้อาหาร - การรับอาหารบางชนิดไม่ได้ ต่างกันอย่างไร บางคนเมื่อมีอาการหลังจากรับประทานอาหารบางชนิด แล้วไปบอกคุณหมอว่า "ฉันคิดว่าฉันแพ้อาหาร" แพทย์จะต้องแยกแยะวินิจฉัยอาการต่างๆ ก่อนเพื่อไม่ให้สับสนว่าจริงๆ แล้วคุณคนนั้นเขา แพ้อาหาร รับอาหารบางชนิดไม่ได้ หรืออาหารเป็นพิษจากเชื้อโรคปนเปื้อนในอาหารกันแน่ ซึ่งทั้งหมดอาการคล้ายกันแต่ต่างกันที่สาเหตุ จึงต้องจำแนกแยกแยะให้ออกก่อนว่าเป็นอะไรกันแน่ บางครั้งสารเคมีตามธรรมชาติ เช่น สารฮีสตามีนที่มีอยู่ในอาหารก็ทำให้เกิดอาการคล้ายกับอาการแพ้อาหารได้ เช่น สารฮีสตามีนที่มีมากในเนยแข็ง ไวน์บางชนิด ปลาบางชนิดโดยเฉพาะปลาทูน่าและปลาแมคเคอเรล (คล้ายปลาทู) ซึ่งสารฮีสตามีนในปลานั้นเชื่อว่าเกิดจากการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะปลาที่ไม่ได้แช่แข็งอย่างดี หากใครรับประทานอาหารที่มีสารฮีสตามีนนี้มากก็จะเกิดอาการเหมือนแพ้อาหารได้ เรียกว่าเกิดพิษจากสารฮีสตามีน (histamine toxicity) การแพ้อาหาร จะเกิดจากปฏิกิริยาของระบบภูมิต้านทานในร่างกาย ส่วนการรับอาหารบางชนิดไม่ได้ อาจเกิดจากความบกพร่องของสารบางชนิดในร่างกาย หรือการไม่ถูกกันระหว่างสารในร่างกายกับสารบางชนิดที่มีอยู่ในอาหาร ทั้งสองกรณีต่างจากอาหารเป็นพิษ ที่มีสาเหตุจากเชื้อโรคปนเปื้อนดังที่กล่าวแล้ว การรับอาหารบางชนิดไม่ได้ที่มักจะพบบ่อยคือ ภาวะพร่องน้ำย่อยน้ำตาลนม (lactase deficiency) ซึ่งพบได้ถึง 1 ใน 10 คน น้ำย่อยนี้สร้างจากผิวของลำไส้ทำหน้าที่ย่อยน้ำตาลนม หากคนที่มีน้ำย่อยน้ำตาลนมไม่พอ เมื่อดื่มนมหรือรับประทานผลิตภัณฑ์จากนมเข้าไป น้ำตาลนมที่ไม่สามารถถูกย่อยก็จะถูกแบคทีเรียนำไปใช้ แล้วสร้างก๊าซขึ้น ทำให้ท้องอืด ปวดท้อง และอุจจาระร่วงได้ ซึ่งแพทย์วินิจฉัยได้โดยการให้รับประทานน้ำตาลนม และวัดผลจากเลือด การรับอาหารบางชนิดไม่ได้อีกแบบหนึ่งที่เจอคือการมีปฏิกิริยาต่อสารที่ใส่ในอาหารเพื่อปรับแต่งรส กลิ่น หรือป้องกันการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย เช่น สีผสมอาหารเบอร์ 5 ทำให้เกิดอาการหอบ หรือผงชูรส ที่ทำให้เกิดอาการร้อนซู่ซ่า ปวดศีรษะ เจ็บหน้าอก อ่อนแรง หรือหงุดหงิดได้ในบางคน ซึ่งเกิดจากการรับประทานผงชูรสในปริมาณมาก สารซัลไฟต์ เป็นสารที่พบได้ในอาหารหรือได้ถูกใส่เข้าไปในอาหารเพื่อทำให้กรอบหรือป้องกันเชื้อรา หากมีปริมาณมากอาจทำให้บางคนมีอาการหอบหืดได้ เนื่องจากสารนี้ทำให้เกิดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ซึ่งคนที่เป็นหอบหืดสูดดมเข้าไประหว่างรับประทานอาหาร ทำให้เกิดอาการระคายเคืองปอดและเกิดการหดตัวของหลอดลมจึงหอบได้ บางคนมีอาการรับอาหารบางชนิดไม่ได้ด้วยสาเหตุทางจิต เช่น ในช่วงวัยเด็กเกิดความรู้สึกไม่ชอบหรือต่อต้านอาหารบางชนิดจนฝังใจ เมื่อกินเข้าไปก็จะเกิดปฏิกิริยาในลักษณะเดียวกับการแพ้อาหาร ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการประเมินและบำบัดทางจิตเวชถึงประสบการณ์เลวร้ายที่ผ่านมา นอกจากนี้แล้วก็ยังมีโรคอื่นๆ ที่มีอาการแบบเดียวกับการแพ้อาหาร เช่น แผลและมะเร็งในทางเดินอาหาร ทำให้อาเจียน อุจจาระร่วง หรือปวดท้องเมื่อรับประทานอาหาร หรือบางคนมีการแพ้อาหารเพราะถูกกระตุ้นจากการออกกำลังกาย คือ คนที่แพ้มักจะรับประทานอาหารมาก่อนที่จะออกกำลังกาย เมื่อออกกำลังกายจนความร้อนของร่างกายเพิ่มมากขึ้น ก็จะเริ่มมีอาการคัน รู้สึกเบาศีรษะ แล้วเกิดอาการแพ้ เช่น หอบ และอาจรุนแรงได้ถึงแก่ความตายได้ วิธีแก้ง่ายๆ ก็คืออย่ารับประทานอาหาร 2 ชั่วโมงก่อนออกกำลังกาย การรักษาการแพ้อาหาร การรักษาการแพ้อาหารเมื่อวินิจฉัยได้ว่าแพ้อาหารชนิดใด ก็ควรงดอาหารที่แพ้ชนิดนั้น และก่อนที่จะเลือกซื้ออาหารควรอ่านรายละเอียดส่วนผสมที่ฉลากอาหารก่อนว่ามีสิ่งที่ตัวเองแพ้ผสมอยู่หรือไม่ เช่น ถ้าแพ้นมต้องดูว่าในส่วนผสมมีผลิตภัณฑ์นมผสมอยู่ด้วยไหม หรือถ้าแพ้ไข่ ต้องดูว่าน้ำสลัดที่เลือกมานั้นมีส่วนผสมของไข่หรือไม่ หรือถ้าแพ้ผงชูรสก็พยายามหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่ใส่ผงชูรส เป็นต้น ในคนที่มีอาการแพ้มากแม้ว่าได้รับสารอาหารที่แพ้เพียงเล็กน้อย ก็สามารถเกิดอาการแพ้ได้ แต่คนที่มีอาการแพ้น้อย อาจทนทานต่อสารอาหารได้หากได้รับในจำนวนน้อยๆ นที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรง ควรมีการเตรียมพร้อมเมื่ออาการแพ้เสมอ เพราะแม้ว่าจะคอยระวังเรื่องอาหารแล้วก็ตาม แต่ก็อาจเกิดความผิดพลาดได้เหมือนกัน ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันในคนที่มีอาการแพ้รุนแรงนี้ ก็ควรพกพายาแก้แพ้ติดตัว หรือห้อยเป็นสายสร้อยเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน หรืออาจพกยาอะดรินาลีน ไว้ฉีดยามฉุกเฉิน และควรรีบไปโรงพยาบาลทันที เพราะในคนที่แพ้รุนแรงอาการช็อคอาจเกิดได้แม้ว่าจะเริ่มต้นด้วยอาการเพียงเล็กน้อย เช่น แค่คันที่ปากและคอ หรือไม่สบายท้องเท่านั้น ทางที่ดีที่สุดคือเมื่อเราทราบแล้วว่าแพ้อาหารชนิดใด ก็คงต้องระมัดระวังการเลือกอาหารให้ดี ควรเลี่ยงและงดสิ่งที่แพ้คือเป็นวิธีที่ดีที่สุด
นพ.ไพบูลย์ เอกแสงศรี เรียบเรียง
ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Health Today

Rip Current มันคืออะไร ทะเลทำไมถึงดูดคนออกสู่ทะเลลึกได้



อันตรายจาก Rip Current จะเกิดกับคนที่ไม่รู้วิธีรับมือกับมัน





ทำไมน้ำทะเลบางแห่ง ถึงดูดคนเล่นน้ำออกไปสู่ทะเลลึก!! ถ้าท่านๆ หลายคนเคยไปเล่นน้ำทะเล หลายๆ แห่งท่านจะสามารถสังเกตุเห็นได้ว่าบางแห่งจะพัดพาสิ่งของเข้าเกยฝั่ง หรือบางแห่งพัดพาคนออกสู่ทะเล อย่างที่หาดแม่รำพึง มีนักเรียนเสียชีวิตจากการเล่นน้ำทะเล เราคงเคยรู้สึกเหมือนกันว่ายิ่งว่ายเข้าฝั่งทะเลยิ่งดูดตัวเราลอยออกมากยิ่งขึ้นทั้งนี้มันเป็นอาถรรพ์ หรือมีเหตุผลอื่นๆ ??? เรามาดูกันครับปรากฏการณ์ที่ทะเลดูดเราออกจากชายหาดนั้น ทางวิทยาศาสตร์เค้าให้นิยามคำจำกัดความนี้ว่า Rip current Ripcurrent นี้มีภาพจำลองแสดงเหตุการณ์ให้ดูดังนี้

Current คือกระแสน้ำ Rip Current เป็นกระแสน้ำที่พัดในแนวตั้งฉากกับชายฝั่งออกสู่ทะเล โดยการจากการที่น้ำทะเลถูกอุปสรรคใต้น้ำปิดกั้นมิให้ไหลกลับคืนท้องทะเลได้สะอวกนอกจากบางช่องทางเท่านั้น หรือเกิดจากการที่น้ำไหลมาปะทะแล้วไหลย้อนกลับออกไปในทะเล อุปสรรค เช่น แนวหิน แนวประการัง หรือสันทรายที่อยู่ใต้น้ำ แนวหินหรือแนวประการังมักจะอยู่คงที่ และเจ้าหน้าที่สามารถบอกเตือนกันได้ แต่แนวสันทรายมักจะมีการเคลื่อนพังหรือก่อตัวขึ้นใหม่ ยากแก่การระวังป้องกัน อันตรายของ Rip Current จะเกิดกับคนที่ไม่รู้วิธีรับมือกับมัน เมื่อตกเข้าไปในกระแสของมัน เพราะธรรมชาติของคนเรามักจะว่ายน้ำสวนทวนกระแสของ Rip Current ซึ่งก็มักจะแพ้และหมดแรงต้านทานในที่สุด
เมื่อประสบกับ Rip Current จงอย่าว่ายสวนกระแส แต่ให้ว่ายขนานของแนวชายฝั่ง ซึ่งเราจะหลุดพ้นจากกระแสได้ในที่สุด จากนั้นจึงค่อยว่ายเข้าฝั่งเมื่อรอดพ้นจากอิทธิพลของมัน
Rip Current เกิดจากแนวสันทรายใต้น้ำ มักเกี่ยวพันกับฤดูกาล และสภาพอากาศ หลังฝนตกหนัก หรือ ในช่วงที่คลื่นน้ำทะเลปั่นป่วน มักมีผลให้ทรายตามชายหาดพังไหลย้อนลงไปตกตะกอนนอกแนวขอบชายฝั่งทะเล ซึ่งทรายเหล่านี้เองเป็นสันทรายใต้น้ำที่ขัดขวางการไหลย้อนกลับของน้ำทะเลที่ถาโถมเข้าฝั่งด้วยอิทธิพลของคลื่น น้ำทะเลจำนวนมากถูกบังคับให้ไหลย้อนกลับออกไปในช่องเปิดของสันทราย และกลายเป็น Rip Current ที่ทรงอานุภาพพร้อมจะปลิดชีพของคนที่ไม่รู้จักมันครับ